เตรียมอุปกรณ์
1. ภาชนะสำหรับใส่น้ำ เช่น ลังพลาสติก, อ่างน้ำพลาสติก, ฯลฯ โดยมีความสูงไม่ต่ำกว่า 6 นิ้วขึ้นไป
2. แผ่นโฟมหนาประมาณ 1 นิ้ว หรือแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดก็ได้
- สำหรับปลูกผักไทย เจาะรูห่างกันประมาณ 10 ซม.
- สำหรับผักสลัด(Red Oak, Green Oak, Red Coal, Butter Head) เจาะรูห่างกันประมาณ 15 - 20 ซม.
3. ปั๊มลมเติมอากาศและหัวทรายแบบเดียวกับที่ใช้ในตู้ปลา (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)
4. ธาตุอาหาร A, B สำหรับปลูกพืชไฮโดรโพนิกส์
5. ถ้วยปลูกพลาสติก
ุ6. ฟองน้ำสำหรับปลูก
7. เมล็ดพันธุ์ผักที่จะปลูก
8. ถ้าใช้น้ำประปาปลูก (ควรตากแดดไว้ 2 วันปรับสภาพน้ำ ลดคอรีน)
วิธีการเพาะเมล็ด
1. นำฟองน้ำมาตีตารางตัดให้มีขนาด 1x1 นิ้ว กรีดตรงกลางฟองน้ำให้เป็นรูปกากบาท
2. นำฟองน้ำแช่น้ำหรือชุบฟองน้ำให้ชุ่มน้ำ วางในถาดที่ใช้เพาะ
3. ทำการหยอดเมล็ดผักใส่ฟองน้ำ ใช้ไม้ปลายแหลม หรือ หลอดดูดนมก็ได้ จุ่มน้ำพอเปียก แล้วนำไปแตะเมล็ดผัก แล้วก็นำเมล็ดผักที่ติดมาใส่ลงในฟองน้ำ ตรงรอยกากบาท โดยถ้าเป็นผักทรงพุ่มแคบ เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง 2-3 เมล็ด/ฟองน้ำ และถ้าเป็นผักพุ่มกว้าง เช่น ผักสลัด ให้หยอดแค่ 1 เมล็ด/ฟองน้ำ ความลึกเมล็ดในฟองน้ำ ควรต่ำกว่าผิวฟองน้ำ 1-3 เซ็นติเมตร
4. ประมาณ 2-3 วัน เมล็ดผักที่เพาะไว้ก็จะงอก โผล่ใบเล็กๆออกมา นำต้นกล้าออกไปวางให้โดนแดดอ่อนๆ เพื่อที่จะให้ต้นกล้าสังเคราะห์แสง ใบก็จะเริ่มมีสีเขียวขึ้น
วิธีการปลูก
ประมาณ 10-14 วัน ต้นกล้าจึงจะมีใบ 3-4ใบ และรากออกมา แสดงว่าพร้อมลงแปลงปลูก
1. ใส่น้ำประปา(ตากแดดไว้ 2 วันปรับสภาพน้ำ ลดคอรีน) ในภาชนะที่จะปลูกโดยให้ระดับน้ำห่างจากขอบภาชนะประมาณ 1-2 นิ้ว (ใช้หน่วยเป็นลิตร)
2. ใส่ธาตุอาหารสำหรับปลูกผักไฮโดร ตามสัดส่วนดังนี้
- ผักสลัดใบเขียว อายุปลูก 40 วัน ปุ๋ย A,B อย่างละ 5 ซีซี/น้ำ 1 ลิตร
- ผักสลัดใบแดง อายุปลูก 45 วัน ปุ๋ย A,B อย่างละ 5 ซีซี/น้ำ 1 ลิตร
หมายเหตุ: การใส่สารละลาย A และ B ให้ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไป
หรือจนกว่าจะแน่ใจว่าสารละลาย A ผสมเข้ากับน้ำที่ใช้ปลูกดีแล้วจึงค่อยเติมสารละลาย B ลงไป
4. นำต้นกล้าที่อนุบาลมาแล้ว 10-14 วัน นำมาใส่กระถางปลูก แล้วนำไปใส่ในช่องปลูกจนครบทุกช่องและโดยให้ก้นฟองน้ำแตะกับน้ำในภาชนะปลูก และควรเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกๆ 7 วัน - 10 วัน เพื่อความสมบูรณ์ของผักที่ปลูก ใส่ปั๊มลมเติมอากาศและหัวทรายเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ